Swift

หยิบออกด่วน ! อาหาร 19 ชนิดที่ไม่ควรแช่ไว้ในตู้เย็น

 ถ้าไม่อยากจำใจทิ้งอาหารที่เพิ่งซื้อมา แนะนำว่าไม่ควรนำไปแช่ในตู้เย็นเด็ดขาด หรือหากมีอาหารเหล่านี้แช่อยู่ในตู้เย็นที่บ้าน รีบนำออกมาให้ไวเลย

          บรรดาแม่บ้าน-พ่อบ้านอาจจะเคยชินกับการเก็บวัตถุดิบอาหารเหล่านี้เอาไว้ในตู้เย็น เพราะคิดว่าตู้เย็นจะช่วยถนอมอาหารให้เก็บไว้กินได้นานขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยถูกต้องนัก เนื่องจากอาหารบางชนิดวางไว้ในอุณหภูมิห้องก็พอแล้ว อีกทั้งการนำไปแช่ตู้เย็นอาจจะทำอาหารเน่าเสียและมีรสชาติผิดเพี้ยนไปจากเดิมเลยล่ะ


1. มันฝรั่ง

        ถ้าเผลอนำมันฝรั่งเข้าไปแช่เอาไว้ในตู้เย็น จากรสชาติที่มัน ๆ นุ่ม ๆ ก็จะกลายเป็นรสเฝื่อนเหมือนแป้ง และเนื้อสัมผัสจะหยาบคล้ายเนื้อทราย ฉะนั้นเราควรจะเก็บมันฝรั่งไว้ในถุงกระดาษ แล้ววางไว้ในตู้กับข้าวดีกว่า นอกจากนี้ห้ามใส่ไว้ในถุงพลาสติก เพราะจะทำให้เกิดความชื้นและเชื้อราตามมาได้ค่ะ

2. หัวหอมใหญ่

        หัวหอมใหญ่ที่เก็บไว้ในตู้เย็นจะถูกความชื้นเข้าไปทำลายเนื้อสัมผัสเดิม จะทำให้หัวหอมนิ่มและเละ แนะนำให้เก็บไว้ในถุงกระดาษเจาะรูหรือถุงตาข่ายที่มีอากาศถ่ายเท จากนั้นก็วางไว้ในที่ที่เย็นและอับแสงดีกว่าค่ะ 

3. ฟักทอง

        อย่าปล่อยให้ความเย็นในตู้เย็นทำรสชาติของฟักทองหายหมด แต่ควรเก็บไว้นอกตู้ในที่ที่เป็นอุณหภูมิห้องดีกว่า เพื่อรักษาความเหนียวและรสชาติหวาน ๆ ของฟักทองให้ยังคงอยู่เหมือนเดิม

4. มะเขือเทศ

        หากนำผลมะเขือเทศสด ๆ ไปแช่ไว้ในตู้เย็นเป็นเวลานาน ผิวที่เคยเต่งตึงก็จะเหี่ยวและช้ำ เพราะผิวของมะเขือเทศบอบบางมาก รวมทั้งรสชาติก็จะเพี้ยนตามไปด้วย วิธีการเก็บมะเขือเทศที่ดีที่สุดคือ ใส่ไว้ในตะกร้าหรือกล่องพลาสติก แล้ววางไว้ในอุณหภูมิห้องปกติ แต่ถ้าอยากให้มะเขือเทศสุกเร็วขึ้น แนะนำให้ห่อไว้ในถุงกระถางอีก 1 ชั้น

5. กล้วย

        คนที่ชอบกินกล้วยแช่เย็นคงต้องเลือกหน่อยแล้ว เพราะถ้าหากนำกล้วยที่เปลือกยังมีสีเขียวไปแช่ในตู้เย็น ความเย็นจะกักเก็บความสดไว้ ทำให้กล้วยสุกช้าลงมาก ทางที่ดีควรเก็บกล้วยที่ยังเขียวเอาไว้นอกตู้เย็น เพื่อรอให้มันสุกได้ที่แล้วค่อยนำไปแช่จะดีกว่า แม้ว่าเปลือกจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล แต่เนื้อด้านจะยังคงสุกพร้อมกินเหมือนเดิม

6. แตงโม

        หลายคนคิดว่าการแช่แตงโมไว้ในตู้เย็นจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการกินมากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วแตงโมที่ถูกเก็บไว้ในอุณหภูมิต่างหากจะมีรสชาติที่พอดี และเนื้อสัมผัสจะยังคงสดใหม่ไม่ช้ำง่าย ถ้าอยากจะกินแบบเย็นขึ้นมา แนะนำให้ตัดแบ่งออกเป็นชิ้น ๆ แล้วค่อยนำไปแช่ดีกว่าค่ะ

7. ส้ม

        ทั้งส้มและเลมอนต่างก็เป็นพืชในตระกูลเดียวกัน และก็ต้องไม่เก็บไว้ในตู้เย็นเช่นเดียวกัน ทางที่ดีควรเก็บไว้นอกตู้เย็น วางไว้ในที่ที่เย็นและไม่มีแสงส่องถึง อุณหภูมิห้องจะดีต่อพืชผลเหล่านี้มากที่สุด 

8. อะโวคาโด

        ถ้าอะโวคาโดที่ซื้อมายังดิบและแข็งอยู่ อย่านำให้ไปแช่ในตู้เย็นเด็ดขาด เพราะอะโวคาโดจะไม่ยอมสุกงอมง่าย ๆ ดังนั้นจึงควรเก็บเอาไว้นอกตู้เย็น จะวางไว้ที่เคาน์เตอร์ครัวหรือที่ไหนก็ได้ที่เป็นอุณหภูมิห้องก็พอค่ะ 



9. กระเทียม

        กระเทียมเป็นอาหารที่ไม่ควรเก็บไว้ในตู้เย็นเด็ดขาด มิเช่นนั้นกระเทียมจะเน่าเสียเร็วขึ้น หรืออาจมีต้นอ่อนงอกออกมา วิธีการเก็บกระเทียมที่ถูกต้องคือ เก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิต่ำและไม่โดนแสงแดดเท่านั้น

10. ผลไม้อบแห้ง

        การเก็บผลไม้อบแห้งไว้ในตู้เย็นจะช่วยตัดปัญหาเรื่องมดไปได้ก็จริง แต่เมื่อเรานำผลไม้อบแห้งออกมากิน ก็จะพบว่ามันแข็งซะจนกินแทบไม่ได้เลยใช่ไหมล่ะ ดังนั้นควรหากล่องหรือถุงซิปล็อกมาใส่แล้ววางไว้ด้านนอกแทน ไม่ว่ามดแมลงหน้าไหนก็มายุ่งกับผลไม้อบแห้งของเราไม่ได้แล้ว

11. ขนมปัง

        การนำขนมปังมาสต็อกเก็บไว้อาจจะต้องวางแผนให้ละเอียดนิดนึง ถ้าจะกินภายใน 1 สัปดาห์ก็สามารถเก็บไว้นอกตู้เย็นได้เลยค่ะ เพราะถ้าหากนำไปแช่ไว้จะทำให้ขนมปังคืนตัว มีเนื้อสัมผัสแห้ง และกระด้างไม่น่ากิน ส่วนใครที่อยากเก็บไว้กินนาน ๆ ให้ใส่ขนมปังไว้ในถุงซิปล็อกและแช่ไว้ในช่องแช่แข็งเท่านั้น  

12. ถั่ว

        ถ้าวางแผนที่จะกินถั่วให้หมดภายใน 1 เดือน ก็สามารถเก็บไว้นอกตู้เย็นที่ที่เป็นอุณหภูมิห้องได้เลยค่ะ แต่ถ้าจะเก็บเอาไว้กินนานเกิน 1 เดือนขึ้นไป แนะนำให้แช่ไว้ในตู้เย็นเลยดีกว่า เพราะความเย็นจะช่วยหยุดยั้งไม่ให้น้ำมันถั่วที่ทำให้เหม็นหืนออกมาได้

13. น้ำมัน

        ใครที่เคยนำน้ำมันไปแช่ไว้ในตู้เย็นให้รีบเอาออกมาด่วน มิเช่นนั้นน้ำมันจะแข็งตัวและจับตัวเป็นไขทำให้ปรุงอาหารลำบาก เอาเป็นว่าก็เก็บไว้ด้านนอกในที่เย็นและไม่มีแสงแดดส่องถึงเหมือนดีกว่า

14. สมุนไพรสด

        สมุนไพรสดที่เพิ่งได้มา อย่านำไปแช่ไว้ในตู้เย็นโดดเด็ดขาด เพราะสมุนไปเหล่านี้จะคอยดูดกลิ่นของอาหารรอบข้างเข้าไป ทำให้รสชาติผิดเพี้ยนไปจากเดิม ฉะนั้นแนะนำให้เอาสมุนไพรสดมาปักลงในขวดแก้วที่มีน้ำหล่ออยู่เพื่อความสดใหม่ หรือเก็บไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิดแล้วค่อยนำไปแช่ในตู้เย็น ก็จะช่วยรักษาความสดใหม่ได้ดีกว่า

15. เครื่องเทศ

        รสชาติเครื่องเทศคือสิ่งที่เราต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี เพราะถ้าหากนำไปแช่ไว้ในตู้เย็น ความชื้นจะทำให้สูญเสียรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัวไป ฉะนั้นให้เก็บเครื่องเทศไว้ในบรรจุภัณฑ์ที่มีฝาปิด แล้ววางไว้ในที่ที่เย็นและแห้ง

16. กาแฟ

        ด้วยคุณสมบัติที่ช่วยกำจัดกลิ่น เราจึงไม่ควรเก็บกาแฟเอาไว้ในตู้เย็นโดนเด็ดขาด มิเช่นนั้นมันจะดูดกลิ่นอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในตู้เย็นเข้าไป ทำให้รสชาติของกาแฟผิดเพี้ยนตามไปด้วย แนะนำให้เก็บไว้ในขวดโหลที่มีฝาปิดสนิท และวางไว้ในที่ที่ไม่มีแสงส่องถึง 




17. แอปเปิล

        เรียกได้ว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพและความสวยความงามตัวแม่เลยค่ะ ฉะนั้นถ้าเราตั้งใจจะกินแอปเปิลให้หมดภายใน 2 สัปดาห์ ก็ให้วางไว้นอกตู้เย็น หรือจะวางตามเคาน์เตอร์ครัวก็ได้ไม่ว่ากัน 

18. น้ำผึ้ง

        หลายคนคิดว่าควรเก็บน้ำผึ้งไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษารสชาติและป้องกันมดแมลง ซึ่งก็ไม่ได้ผิดอะไร เพียงแต่จะทำให้น้ำแข็งตัวและตกผลึก แถมยังเพิ่มปริมาณความหวานให้มากขึ้นอีกด้วย เอาเป็นว่าเลือกเก็บในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดมิดชิด วางไว้ในที่ที่อุณหภูมิเย็น และไม่โดนแสงแดด

19. เนยถั่ว

        เนยถั่วขวดไหนที่ถูกเปิดฝาแล้วอย่านำไปแช่ไว้ในตู้เย็นเด็ดขาด ให้วางด้านนอกที่มีอุณหภูมิห้องก็พอค่ะ เมื่อครบ 3 เดือนให้นำไปแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อยืดอายุให้นานขึ้น แต่ถ้าเป็นเนยถั่วที่ทำเองและต้องการกินให้หมดภายใน 1 เดือน แนะนำให้เก็บไว้นอกตู้เย็นเช่นเดียวกัน รสชาติก็จะยังคงเหมือนเดิม

        แม้ว่าตู้เย็นจะช่วยรักษาสภาพอาหาร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเอาอาหารทุกชนิดไปเก็บรักษาไว้ในตู้เย็นได้ อีกทั้งอาจทำให้อาหารบางอย่างเสียเร็วขึ้น ฉะนั้นหากรู้แล้วว่าอาหารชนิดไหนที่ไม่ควรนำเข้าตู้เย็น ก็อย่าลืมไปหยิบออกมานะคะ 

ขอบคุณภาพจาก : home.kapook.com/view150889.html
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : home.kapook.com/view150889.html



You Might Also Like

0 ความคิดเห็น

adnow